สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนอาจต้องเจอช่วงหน้าฝนและเป็นอุปสรรคในการเดินทางคือ น้ำท่วม ซึ่งหากท่วมขังเพียงเล็กน้อยรถทุกชนิดยังสามารถขับผ่านไปได้อาจไม่เป็นปัญหานัก แต่ถ้าระดับน้ำสูงย่อมส่งผลกับรถยนต์จะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับรถแต่ละประเภท เพราะขีดจำกัดในการลุยย่อมไม่เท่ากัน

- ระดับน้ำท่วมไม่เกิน 20 เซนติเมตร
ปริมาณน้ำในระดับนี้จะอยู่บริเวณครึ่งล้อของรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขนาดกลาง และรถกระบะที่ไม่ได้ยกสูง ซึ่งยังคงเพียงพอที่จะสามารถขับผ่านไปได้ ยังไม่มีอันตรายกับตัวรถและเครื่องยนต์ - ระดับน้ำท่วม 20-40 เซนติเมตร
ปริมาณน้ำในระดับนี้จะอยู่บริเวณที่สูงเกินครึ่งล้อรถยนต์ขนาดเล็ก และรถยนต์ขนาดกลางขึ้นมา โดยปกติรถยนต์ทั่วไปจะมีความสูงจากพื้นประมาณ 15-18 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถลุยผ่านไปได้อย่างแน่นอนเพราะท่อไอเสียจะจมหรืออยู่ในระดับเดียวกับน้ำที่ท่วมขังพอดี แต่หากระยะทางที่ไม่ไกลมากหากจำเป็นต้องลุยฝ่าไปพอทำได้ แต่ถ้าไกลควรหลีกเลี่ยง - ระดับน้ำท่วม 40-60 เซนติเมตร
ปริมาณน้ำในระดับนี้รถยนต์ขนาดเล็ก และรถยนต์ขนาดกลางทุกชนิดไม่ควรขับผ่าน ในขณะที่รถกระบะทั่วไปที่ไม่ใช่รถกระบะตัวเตี้ยยังสามารถขับผ่านได้อยู่ แต่ควรปิดเครื่องปรับอากาศ ส่วนรถกระบะยกสูงสามารถผ่านได้ แต่ควรใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น - ระดับน้ำท่วม 60-80 เซนติเมตร
เป็นปริมาณน้ำในระดับที่ถือว่าเป็นอันตรายต่อรถทุกชนิดไม่ควรขับผ่านไปอย่างเด็ดขาด เพราะรน้ำจะอยู่ในระดับฝากระโปรงหน้ารถ ซึ่งอาจไหลเข้าช่องกรองอากาศ ทำให้เครื่องยนต์ดับได้ และถึงแม้ในรถกระบะยกสูง รถกระบะออฟโรด จะยังพอผ่านไปได้ แต่ก็อาจเกิดอันตรายจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น หลุม บ่อ ท่อระบายน้ำ หรือสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่ถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถมองเห็นได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การขับรถลุยน้ำท่วมต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองและผู้โดยสารเป็นหลัก หากเราไม่ชำนาญเส้นทางควรใช้ความระมัดระวังให้มากที่สุด หรือถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย ที่สำคัญก่อนการเดินทางทุกครั้งควรศึกษาเส้นทาง และติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : https://www.scb.co.th