เพื่อความปลอดภัย! ต้องตรวจเช็กและเปลี่ยนถ่าย
น้ำมันเครื่อง
ทั่วไปแล้วน้ำมันเครื่องจะมีระยะการเปลี่ยนถ่ายอยู่ที่ 8,000-10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือน แต่ถ้ารถของเราใช้งานอยู่บ่อยๆ หรือวิ่งทางไกลแนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน หรือสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเช็กระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยจะต้องไม่ต่ำกว่า MIN และไม่เกินขีด MAX สามารถสังเกตได้ที่ก้านวัดน้ำมันเครื่อง หากระดับน้ำมันเครื่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดจะส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ และถ้าสูงเกินขีดที่กำหนดจะส่งผลให้มีควันที่ขาวมากกว่าปกติซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะน้ำมันเครื่องทะลักเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์
น้ำมันเพาเวอร์หรือน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้แล้วเพราะในรถยนต์ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องใช้แล้วเนื่องจากเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าทั้งหมด แต่สำหรับรถยนต์ที่ใช้พวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิกนั้น น้ำมันเพาเวอร์เป็นสิ่งที่ควรหมั่นเติมและตรวจเช็กให้อยู่ในระดับปกติ และไม่ควรเติมมากจนเกินไปนะครับ เพราะเมื่อน้ำมันได้รับความร้อนเกิดจะถูกขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม สำหรับระยะการเปลี่ยนถ่ายควรเปลี่ยนทุกๆ 1 ปี หรือทุกๆ 80,000 กิโลเมตร หากไม่ได้เปลี่ยนตามระยะที่กำหนดจะส่งผลให้การบังคับเลี้ยวของพวงมาลัยทำได้ยากมากขึ้น เนื่องจากลูกสูบภายในเฟืองขับและเฟืองสะพานที่เชื่อมต่อกับล้อหน้านั้นเคลื่อนที่ตามแรงดันน้ำมันจากปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ที่ทำหน้าที่ช่วยหมุนพวงมาลัยนั่นเอง
น้ำมันเบรก
เบรกเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ เลยนะครับ สำหรับผู้ที่ใช้งานรถยนต์ทั่วไปควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุกๆ 40,000 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นผู้ที่ใช้งานรถยนต์ขึ้น-ลงเขาอยู่เป็นประจำ ที่จะต้องคอยเยียบเบรกอยู่บ่อยๆ ซึ่งทำให้น้ำมันเบรกเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าปกติสามารถสังเกตได้จากอาการเบรกจม หรือเมื่อเยียบเบรกแล้วมีความรู้สึกว่าเบรกไม่ค่อยอยู่ หรือต้องเยียบเบรกซ้ำๆ หลายรอบ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กทันที
น้ำมันเกียร์
ไม่ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดาจะมีรอบเปลี่ยนอยู่ที่ทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือทุก 2 ปี หรือถ้าผู้ขับขี่มีพฤติกรรมในการขับขี่ที่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ จะต้องทำการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เร็วกว่าปกติที่ระยะ 10,000-20,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 1 ปี เพราะน้ำมันเกียร์เป็นตัวช่วยในการชะล้างเศษโลหะ คราบเขม่าที่สะสมจากการใช้งานเป็นเวลานาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นลดน้อยลงนั่นเอง
น้ำยาหล่อเย็นหรือน้ำยาเติมหม้อน้ำ
หน้าที่หลักๆ เลยก็คือช่วยทำให้จุดเดือดของน้ำภายในหม้อน้ำที่ถูกผสมน้ำยาหล่อเย็นสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำที่อยู่ภายในเดือดช้าลง อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดสนิม ตะกรัน ตะกอน ดังนั้นควรตรวจสอบระดับภายในหม้อน้ำทุกสัปดาห์ และควรเปลี่ยนถ่ายออกทุกๆ 6 หรือ 9 เดือน หรือทุกๆ 50,000 กิโลเมตร
น้ำยาฉีดกระจก
สำหรับน้ำยาฉีดกระจกเป็นของเหลวที่สามารถเติมเองได้เลยนะครับ สามารถเติมน้ำเปล่าหรือจะผสมกับน้ำยาฉีดกระจกตามอัตราส่วนที่เหมาะสมได้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดพวกคราบฝุ่น คราบแมลงหรือขี้นกที่ติดอยู่บนกระจกครับ ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ชัดมากขึ้น หากเป็นผู้ที่ใช้น้ำยาฉีดกระจกเป็นประจำควรหมั่นเติมทุกๆ สัปดาห์
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : https://unitedhonda.com