เมื่อเครื่องของรถมีปัญหา เครื่องสตาร์ตไม่ติด หลายคนนึกว่าบอกแค่นี้พอ ทั้งที่จำเป็นต้องมีการสื่อสารเพื่อบอกช่างหรือขอควา มช่วยเหลือที่ละเอียดกว่านี้ เพราะแค่บอกว่าเครื่องสตาร์ตไม่ติด จะไม่สามารถสื่อถึงอาการของปัญหาที่แท้จริงได้
++ ไม่ใช่ช่าง จึงไม่รู้เรื่องกลไก++
เจ้าของรถหรือผู้ขับส่วนใหญ่ ไม่มีความรู้เรื่องกลไกในรถ หรือรู้ก็แค่งูๆ ปลาๆ รู้ตัวดีว่าไม่ใช่ช่าง เมื่อรถเกิดปัญหาหรือเสียก็หัวเสียพออยู่แล้ว คิดแต่เพียงว่าจะขอความช่วยเหลือจากใคร และเมื่อเจอใครที่พอลุ้นว่าจะช่วยได้ ก็จะรีบบอกอาการของปัญหาสั้นๆ ว่า เครื่องสตาร์ตไม่ติด โดยไม่บอกถึงรายละเอียดว่าเครื่องไม่ติดแบบไหน เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ช่าง จะไปรู้อะไรละเอียดได้อย่างไร ถ้ารู้มากก็คงซ่อมเองไปแล้ว
ในความเป็นจริง เมื่อรถเสีย ควรพยายามดูและบอกถึงอาการของปัญหาที่เกิดขึ้นให้ละเ อียดที่สุด เพื่อให้ช่างหรือใครที่จะช่วย สามารถวิเคราะห์ถึงปัญหาตีวงแคบเข้ามาได้ การบอกถึงอาการเสียอย่างละเอียด เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ เพราะไม่ใช่เป็นการพยายามแก้ไขปัญหาที่ตนเองไม่ถนัด
++ เครื่องสตาร์ตไม่ติด มีหลายอาการแตกต่างกัน++
แม้คำว่าเครื่องสตาร์ตไม่ติด ดูเหมือนจะมีอาการเดียว คือ เมื่อบิดกุญแจแล้ว เครื่องไม่ทำงานตามปกติ ไม่สามารถขับรถออกไปได้ในความเป็นจริง เครื่องสตาร์ตไม่ติด มีหลายอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ
- บิดกุญแจแล้วเครื่องไม่หมุน มีเสียงดังแชะๆ หรือไม่ดังเลย
- บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนอืดๆ ช้ากว่าปกติ แล้วก็ไม่ยอมทำงานเอง หมุนได้อืดๆ จากแรงของไดสตาร์ตเมื่อบิดกุญแจค้างอยู่เท่านั้น
- บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนเร็วตามปกติด้วยแรงของไดสตาร ์ต แต่ไม่หมุนเอง ปล่อยกุญแจแล้วก็หยุดหมุน