
ประเมินระดับน้ำก่อน อย่าสูงเกินครึ่งล้อ และ ขับด้วยความเร็วต่ำ คงที่ เพื่อป้องกันน้ำเข้าเครื่องยนต์ โดย ปิดแอร์ เพื่อลดโหลดเครื่องยนต์และป้องกันน้ำกระเด็นเข้า เว้นระยะห่าง จากคันหน้ามากกว่าปกติเพื่อความปลอดภัย หากเครื่องยนต์ดับ ห้ามสตาร์ท แต่ให้ออกจากรถและโทรขอความช่วยเหลือ หลังขับผ่านน้ำแล้ว ควร ตรวจสอบเบรก และเข้าศูนย์บริการหากมีอาการผิดปกติ
ระหว่างการขับรถลุยน้ำ
1.ประเมินระดับน้ำก่อน: ไม่ควรขับลุยน้ำที่สูงกว่าระดับท้องรถหรือประมาณครึ่งล้อรถยนต์ เพราะอาจทำให้น้ำเข้าห้องเครื่องและระบบไฟช็อตได้
2.รักษาความเร็วต่ำและคงที่: ขับด้วยความเร็วประมาณ 2-3 กม./ชม. และใช้เกียร์ต่ำ (เกียร์ L หรือ เกียร์ 1-2) เพื่อป้องกันการเสียการทรงตัว และป้องกันน้ำดูดเข้าท่อไอเสีย
3.ปิดแอร์: การเปิดแอร์จะทำให้ใบพัดลมแอร์หมุน และอาจพัดพาน้ำเข้าห้องเครื่องยนต์ได้
4.เว้นระยะห่างจากคันหน้ามากกว่าปกติ: ระบบเบรกจะมีประสิทธิภาพต่ำลงเมื่อเปียกน้ำ การเว้นระยะห่างจะช่วยให้มีเวลาหลบหลีกสิ่งกีดขวางและป้องกันการชนท้าย
5.ขับชิดกึ่งกลางถนน: บริเวณกึ่งกลางถนนมักมีระดับน้ำต่ำที่สุด
6.ระวังคลื่นน้ำ: รถคันอื่นอาจสร้างคลื่นน้ำสูง หากขับช้าและระวัง จะลดแรงปะทะของคลื่นน้ำที่อาจเข้ามาในรถ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : https://www.google.com/search/AIOverview

