จอดรถตากแดด ส่งผลเสียอย่างไร
1.แอร์ทำงานหนัก เพราะเมื่อคุณเจอกับความร้อนที่สะสมอยู่ภายในรถ จนต้องเปิดแอร์เร่งให้สุดหลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ แอร์จะทำงานหนักกว่าปกติ เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อต่อต่างๆ ในระบบท่อแอร์ได้
2.สีรถหมอง จะเห็นได้ชัดโดยเฉพาะรถสีขาว เมื่อโดนแดดนานๆ จากสีขาวจะกลายเป็นสีเหลือง ส่วนรถสีเข้ม แดดจำทำให้รถสีเข้มจางลง
3.น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ด้วยอากาศที่ร้อนส่งผลให้การทำงานของน้ำมันเครื่องลดลง และหมดสภาพไว นำมาซึ่งเครื่องยนต์พังได้
4.แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เนื่องจากความร้อนในรถยนต์ไม่ถูกระบายออกมาจนทำให้แบตเตอร์บวม ส่งผลให้สตาร์ทรถไม่ติด ฉะนั้นเมื่อรถตากแดดนานๆ แล้วสตาร์ทไม่ติด ให้ลองสังเกตแบตเตอรี่ว่าบวมหรือไม่
5.ยางรถยนต์เสียหาย ถึงยางรถยนต์จะทนต่อความร้อนสูง แต่หากเป็นยางเก่าที่ผ่านการใช้งานมานาน ก็ควรระวังเรื่องความร้อนเป็นพิเศษ เพราะความร้อนจะสร้างความตึงให้กับยางจนเกิดระเบิดได้
6.ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพเร็ว สังเกตได้จากสีของฟิล์มจะเปลี่ยนไป และกลายเป็นสีม่วงๆ
7.ชิ้นส่วนภายในรถยนต์แห้งกรอบ เช่น บริเวณคอนโซลหน้ารถ พวงมาลัย และเบาะรถจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิม ถ้าเป็นเบาะหนังจะแห้งกรอบ และถ้าเป็นเบาะผ้าสีจะซีดดูเก่าเร็ว
จอดรถตากฝน ส่งผลเสียอย่างไร
1.สีรถหมอง นอกจากแสงแดดที่เป็นตัวการทำลายสีรถแล้ว ฝน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการรองลงมาที่ทำให้สีรถหมองเช่นกัน เพราะเม็ดฝนเต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่นละออง และสารเคมีต่างๆ เมื่อตกลงมายังผิวรถ ทำให้เกิดเป็นคราบ และถ้าทิ้งไว้เช่นนั้น คราบจะติดฝังแน่นทำให้สีรถดูหมอง
2.รถสตาร์ทไม่ติด การจอดรถตากฝนเป็นเวลานาน ทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้การสตาร์ทรถยนต์ทำได้ยาก
วิธีป้องกันรถจากแดด หากจำเป็นต้องจอดกลางแดด
1.ใช้ม่านบังแดดในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกระจกหน้า กระจกข้าง กระจกหลัง สามารถป้องกันแสงส่องโดยตรง แต่ที่สำคัญจะต้องเลือกชนิดผ้าม่านที่สามารถป้องกันรังสีได้ด้วย
2.ใช้ผ้าคลุมรถ สามารถช่วยปกป้องแสงแดดกระทบเข้าตัวรถ โดยเลือกผ้าคลุมชนิดที่สามารถสะท้อนแสงได้และไม่ทำให้รถเป็นรอยขีดข่วน
3.เคลือบสีรถ เป็นวิธีที่ช่วยป้องกันรังสีของดวงอาทิตย์ จะช่วยให้สีรถไม่ซีดเร็ว
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : https://www.tqm.co.th/articles


