วิธีต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2565

การต่อใบขับขี่ออนไลน์ จะทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทาง ไม่ต้องเสียเวลาไปยืนต่อคิวให้เหนื่อย และยิ่งในช่วงที่โควิด 19 ระบาดแบบนี้ก็ไม่ต้องเสี่ยงไปอยู่กับกลุ่มคนเยอะ ๆ ด้วย และไม่ต้องกลัวเลยว่าจะต้องเข้าเว็บไซต์หรือกรอกแบบฟอร์มอะไรให้ยุ่งยาก เพราะขั้นตอนการต่อใบขับขี่ออนไลน์นั้นง่ายมากจริง ๆ จะโลว์เทคแค่ไหนก็ทำได้หมด ที่สำคัญเราอธิบายทุกขั้นตอนให้แล้วแบบละเอียดยิบ! ถ้าพร้อมแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เตรียมตัวต่อใบขับขี่ออนไลน์กันได้เลยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อจะต่อใบขับขี่ออนไลน์

สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือเครื่องคอมพิวเตอร์

เลือกเครื่องมือที่จะใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในการต่อใบขับขี่ และต้องเตรียมเข้าเว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/ เพราะการต่อใบขับขี่ออนไลน์จะต้องทำผ่านระบบ DLT e-learning ซึ่งเป็นระบบของกรมการขนส่งทางบกโดยตรง

เตรียมข้อมูลบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และวันเดือนปีเกิดเพื่อที่จะกรอกลงในเว็บไซต์
เตรียมเวลาในการนั่งฟังการอบรมออนไลน์ เพราะฉะนั้นควรเลือกวันและเวลาที่สะดวก ไม่มีธุระเร่งด่วน โดยเวลาการอบรมนั้นก็จะแตกต่างกันไปในประเภทของใบขับขี่ แต่ถ้าเป็นใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

6 ขั้นตอนการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/ แล้วกดลงทะเบียนเข้ารับการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
    เข้าสู่ระบบต่อใบขับขี่ออนไลน์
  2. กรอกรายละเอียดข้อมูลให้ครบถ้วน จากนั้นก็เลือกประเภทการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์จากทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (ระยะการอบรม 1 ชั่วโมง), ใบอนุญาตขับรถขนส่ง (ระยะการอบรม 2 ชั่วโมง) และใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (ระยะการอบรม 3 ชั่วโมง)
  3. ทำแบบทดสอบก่อนอบรม 3 ข้อ
  4. เข้าสู่วิดีโอการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ โดยจะต้องรับชมให้จบ ไม่สามารถปิดหน้าต่างทิ้งหรือกดข้ามได้ แนะนำว่าควรตั้งใจฟังเพราะเมื่อวิดีโอจบจะมีให้ตอบคำถามด้วย
  5. ตอบแบบสอบถาม 3 ข้อหลังจบการอบรบต่อใบขับขี่ออนไลน์ ขั้นตอนหลังจากผ่านอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ เมื่อผ่านขั้นตอนการอบรมแล้ว เราจะต้องไปยื่นเอกสารต่าง ๆ ที่สำนักงานขนส่งด้วยตัวเอง แต่เราสามารถจองคิวล่วงหน้าก่อนได้เพื่อความสะดวกสบาย โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
  1. โหลดแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue โดยคลิกที่ลิงก์ด้านล่างได้เลย
    iOS : https://apple.co/2GIHARd แอนดรอยด์ : http://bit.ly/2IkLpyO หรือ https://gecc.dlt.go.th
  2. เมื่อเข้าไปในแอปแล้วให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อสมัครใช้งาน
  3. เลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวกไปต่อใบขับขี่ จากนั้นก็ให้เลือกวันเวลาและกดยืนยัน
  4. บันทึกหน้าจอเป็นหลักฐานเพื่อไปยื่นในวันทำ

เอกสารที่ต้องใช้ในการต่อใบขับขี่

หลังจากผ่านการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์และจองคิวได้เรียบร้อย ทีนี้เราก็มาจัดเตรียมเอกสารรอกันพลาง ๆ ดีกว่า เอกสารที่เราต้องจัดเตรียมก็มีดังนี้

  1. ใบขับขี่ปัจจุบัน
  2. บัตรประจำตัวประชาชน
  3. ใบรับรองแพทย์ (ต้องใช้ใบรับรองแพทย์กับการต่อใบขับขี่ทุกประเภทตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป)

ขั้นตอนการดำเนินการต่อใบขับขี่

อย่างแรกก็คือควรไปถึงสำนักงานขนส่งก่อนเวลานัดประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็เข้าไปยื่นเอกสารและคำขอที่เราเตรียมมา และเนื่องจากเราผ่านการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์มาแล้วจึงไม่จำเป็นต้องนั่งฟังการอบรมอีก ขั้นตอนถัดไปจะเป็นการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายต่าง ๆ ได้แก่ การทดสอบทางสายตา การทดสอบการมองเห็นสี และการทดสอบปฏิกิริยาเท้าโดยให้เหยียบเบรกหลังเห็นสัญญาณไฟ ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่ เป็นอันเสร็จสิ้น

ค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่

  1. ต่ออายุใบขับขี่รถยนต์แบบ 2 ปีเป็น 5 ปี 505 บาท
  2. ต่ออายุใบขับขี่รถยนต์แบบ 5 ปีเป็น 5 ปี 505 บาท
  3. ต่ออายุใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 5 ปี 255 บาท

กรณีต่อใบขับขี่ล่วงหน้าหรือเลยกำหนดการต่อ

กรณีต่อล่วงหน้า: สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 6 เดือน

กรณีเลยกำหนด: ถ้าหมดอายุเกิน 1 ปีแต่ไม่เกิน 3 ปีต้องสอบข้อเขียนใหม่ แต่ถ้าเกิน 3 ปี ต้องเพิ่มขั้น

ตอนอบรม การทดสอบข้อเขียน และการสอบขับรถใหม่ด้วย

การต่อใบขับขี่ออนไลน์นั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินการที่สำนักงานขนส่ง โดยเราสามารถลงทะเบียนอบรมทางเว็บไซต์ออนไลน์ได้ก่อน จากนั้นก็จองคิวทำใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชั่น และไปทำบัตรในวันจริงได้อย่างไม่ยุ่งยากและเสียเวลาเลย รับรองว่าการต่อใบขับขี่นั้นจะสะดวกสบายขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากอย่างแน่นอนค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *