1.ไม่ชนแล้วหนี
ไม่ว่าอุบัติเหตุรถชนที่เจอจะเล็กน้อยหรือใหญ่แค่ไหน ก็ขอให้เพื่อนๆตั้งสติและตั้งรับกับสิ่งที่จะตามมา ไม่ชนแล้วหนีเป็นอันขาด
- กั้นบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ
อาจจะจอดรถเข้าข้างทางที่ปลอดภัยเพื่อกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ โดยถ้าหากเป็นอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บหรือรถอยู่เลนกลาง ก็ไม่ควรจะเคลื่อนย้ายรถคันนั้น แต่ควรจะหาทางกั้นบริเวณให้รู้ว่านี่คือที่เกิดเหตุ หรือคอยใช้ไฟสัญญาณคอยโบกรถให้ระวังและขับผ่านไป - โทรแจ้งประกัน
ถ้ามีประกันรถยนต์คุ้มครองก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ให้โทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉินของประกัน ให้มาที่เกิดเหตุรถชนให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ทำการเคลมประกันและถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นหลักฐานไว้ โดยไม่ควรนิ่งนอนใจแล้วเรียกประกันมาดูช้าเกินไป ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งส่งผลให้สามารถเคลมประกันได้ดียิ่งขึ้น
วิธีนี้จะทำให้สามารถไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย โดยให้ประกันเป็นผู้เจรจาเรื่องค่าสินไหมชดเชย จึงไม่ต้องมาคอยปวดหัวเถียงกันกับคู่กรณีอีกนั่นเอง
- โทรแจ้งตำรวจ
แต่ถ้าหากเกิดกรณีที่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้ลงตัว หรือในที่เกิดเหตุรถชนมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต หรือเกิดความเสียหายค่อนข้างมาก แนะนำให้โทรแจ้งตำรวจเพื่อมาดูที่เกิดเหตุด้วย เพื่อจะได้ช่วยบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วยประสานงาน และช่วยไกล่เกลี่ยสถานการณ์ให้ดียิ่งขึ้น - ถ่ายรูปและเก็บหลักฐาน
แม้ว่าทางประกันและตำรวจจะเป็นผู้ถ่ายรูปและเก็บหลักฐานไว้ส่วนใหญ่ แต่เองก็สามารถถ่ายรูปและเก็บหลักฐานของเหตุการณ์รถชนที่เกิดขึ้นเพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานยืนยันของตัวเองได้เช่นกัน โดยให้ถ่ายรูปความเสียหายที่เกิดขึ้น ถ่ายรูปอาการบาดเจ็บ และถ่ายรูปหลักฐานอื่นๆ โดยถ่ายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ - แลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อ
หากเกิดเหตุการณ์รถชน ก็อย่าลืมแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกันกับคู่กรณีหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้งหมดด้วย เผื่อในกรณีที่ว่าจะต้องมีการติดตามผลการเคลมประกัน หรือติดตามผลจากตำรวจ จะได้สามารถนัดวันมาคุยกันหรือสามารถโทรติดต่ออธิบายรายละเอียดได้อย่างง่ายดาย แถมไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหนีหายไปได้ - นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
หากอุบัติเหตุรถชนนั้นๆมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็อย่าลืมโทรเรียกรถพยาบาลและอาสาสมัครกู้ภัย เพื่อนำส่งผู้บาดเจ็บไปที่โรงพยาบาลอย่างปลอดภัย หากรู้วิธีปฐมพยาบาลก็ให้ทำอย่างระมัดระวัง แต่ถ้าหากไม่ทราบ ทางที่ดีให้เพื่อนๆรอเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมาทำการปฐมพยาบาลจะดีกว่า สิ่งที่ทำได้ก็คือการประคองผู้บาดเจ็บให้ยังมีสติอยู่ตลอดเวลา รวมถึงพยายามพูดคุยให้ผู้บาดเจ็บไม่รู้สึกตื่นตระหนก
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : www.drivemate.asia