1.ลดความเร็วและเว้นระยะห่าง
ถนนเปียกลื่น ทำให้ระยะเบรกยาวขึ้น ควรลดความเร็วและเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพิ่มเป็น 2 เท่าของปกติ เพื่อให้มีเวลาตัดสินใจและเบรกได้อย่างปลอดภัย
2.ใช้ไฟหน้าเสมอ
เปิดไฟหน้าเพื่อเพิ่มการมองเห็นทั้งสำหรับคุณและผู้ขับขี่คันอื่น ๆ
3.เบรกอย่างนุ่มนวล
หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน ให้ค่อย ๆ แตะเบรกเบา ๆ เพื่อให้รถค่อย ๆ ชะลอความเร็ว
4.หลีกเลี่ยงการขับผ่านน้ำท่วม
หากไม่สามารถเลี่ยงได้ ให้ชะลอความเร็วและขับด้วยเกียร์ต่ำ
5.ห้ามใช้ระบบ Cruise Control
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติไม่ควรใช้เมื่อถนนเปียก เนื่องจากอาจทำให้รถเสียการควบคุมได้หากเหินน้ำ
6.ตรวจสอบระบบปัดน้ำฝนและไล่ฝ้า
ตรวจสอบใบปัดน้ำฝนและระบบไล่ฝ้าให้พร้อมใช้งาน เพื่อให้ทัศนวิสัยชัดเจนตลอดการขับขี่
7.จับพวงมาลัยให้มั่นคง
จับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้างและลดการเปลี่ยนเลนกะทันหัน
8.ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทาง
เติมลมยางให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ, ตรวจสอบดอกยางให้ลึก, เติมน้ำฉีดกระจกให้เต็ม, และเช็กไฟสัญญาณต่าง ๆ
9.ไม่ใช้ไฟฉุกเฉินขณะขับ
ไฟฉุกเฉินใช้สำหรับหยุดรถนิ่งเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
ข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติม
1.เช็คสภาพยาง ดอกยางที่สึกหรอมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำต่ำ ทำให้เสี่ยงต่อการลื่นไถล.
2.ระมัดระวังน้ำท่วม แอ่งน้ำขังอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้.
3.เตรียมการก่อนเดินทาง ควรเติมน้ำมันให้เต็มและชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้พร้อ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : https://www.tqm.co.th/articles