รถยนต์เป็นยานพาหนะที่ควรได้รับการใส่ใจดูแลอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีสภาพอากาศร้อนสูง รถยนต์อาจได้รับผลกระทบจนเกิดความเสียหาย ซึ่งสามารถป้องกันปัญหาเบื้องต้น ได้ดังนี้
1.จอดรถในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้ง เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ไม่ให้สึกหรอ ป้องกันการเสื่อมสภาพของของเหลวต่างๆ ในระบบเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ประเภทยาง เช่น ยางรถยนต์ ขอบยางกระจก ที่ปัดน้ำฝน ไม่ให้เสื่อมสภาพไว
2.เมื่อขึ้นรถที่ร้อนจัด ให้ลดกระจกลงและเปิดพัดลมแอร์ระบายความร้อนประมาณ 2 นาที ก่อนจะปรับมาเปิดโหมดทำความเย็น จะช่วยให้อุณหภูมิในรถเย็นเร็วขึ้น อย่าเร่งแอร์สู้ความร้อน จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินไป ที่สำคัญ ควรตรวจเช็กระบบปรับอากาศเป็นประจำ
3.ติดฟิล์มกรองแสงได้มาตรฐาน ช่วยลดความร้อนและช่วยป้องกันรังสี UV ที่เข้ามาภายในรถยนต์ อีกทั้งช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศอีกด้วย
4.การดูแลยางรถยนต์
- ควรเติมลมยางให้เหมาะสม ระวังอย่าปล่อยให้ลมยางน้อยเกินไป เพราะจะทำให้ส่วนประกอบภายในของยางได้รับความเสียหาย และเกิดความร้อนเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการระเบิดได้ง่าย
- ตรวจสอบสภาพยาง สังเกตรอยแตก รอยนูน หากพบให้หยุดใช้และเปลี่ยนยางใหม่ทันที หากขับขี่โดยใช้ยางที่เสียหายในวันที่อากาศร้อนจัด เสี่ยงยางระเบิดได้
5.เช็กระบบระบายความร้อน
- ตรวจระดับน้ำในถังพักน้ำทุกครั้งก่อนสตาร์ต ควรให้ระดับอยู่ระหว่างไม่เกิน MAX และไม่ต่ำกว่า MIN
- เป่ารังผึ้งหม้อน้ำ เพื่อทำความสะอาดขจัดฝุ่นผงที่อุดตัน ทำให้ระบบระบายความร้อนของรถกลับมาทำงานเต็มประสิทธิภาพ
- ตรวจเช็กพัดลมไฟฟ้า ควรหมุนอยู่ที่รอบปกติ หากหมุนด้วยรอบที่ช้าลงให้รีบตรวจสอบแก้ไข
6.สิ่งของต้องห้ามไม่ควรเก็บไว้ในรถ ขณะที่แดดร้อนจัด อาจเกิดความเสียหายและเสี่ยงต่อการระเบิด เช่น โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่สำรอง ไฟแช็ค กระป๋องสเปรย์ แก๊สกระป๋อง เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : https://safedrivedlt.com